coachnatta - coachnatta

ความแตกต่างของการจดเครื่องหมายการค้าและการจดลิขสิทธิ์

มีความแตกต่างกันในเนื้อหาและวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องดังนี้:

1.เนื้อหาที่ครอบคลุม:

การจดเครื่องหมายการค้า (Trademark):

ใช้เพื่อป้องกันสิทธิ์ใน ชื่อ เครื่องหมาย หรือสิ่งที่ใช้เพื่อแยกแยะสินค้าหรือบริการของธุรกิจจากธุรกิจอื่น ๆ

การจดเครื่องหมายการค้าจะช่วยให้ลูกค้ารู้จักและไว้วางใจในสินค้าหรือบริการของคุณ
การจดลิขสิทธิ์ (Copyright):

ใช้เพื่อป้องกันสิทธิ์ในผลงานที่มีลักษณะสร้างสรรค์ อาทิเช่น ภาพวาด ลายเส้น อักษรเฉพาะ และเนื้อหาเขียน เป็นต้น

การจดลิขสิทธิ์มุ่งหวังที่จะป้องกันการทำซ้ำ การนำไปใช้ประโยชน์ หรือการแจกจ่ายผลงานนั้นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต

2. วัตถุประสงค์:

การจดเครื่องหมายการค้า (Trademark):

ใช้เพื่อป้องกันการใช้ชื่อ หรือสัญลักษณ์ที่เป็นเครื่องหมายเฉพาะของธุรกิจ โดยทำให้ลูกค้ารู้จักและจดจำได้ง่าย ในหมวดสินค้านั้น ๆ
การจดลิขสิทธิ์ (Copyright): ใช้เพื่อป้องกัน การทำซ้ำ การนำไปใช้ประโยชน์ หรือการแจกจ่ายผลงานนั้นๆ

โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าจะใช้ที่ใด กับสินค้า หรือ บริการใด ก็ไม่สามารถนำไปทำซ้ำได้ ทุกอย่างจะถูกคุ้มครองโดยกฎหมาย

3. ระยะเวลาของความคุ้มครอง:

การจดเครื่องหมายการค้า (Trademark):

มีความคุ้มครองตลอดเวลา แต่ต้องมีการต่ออายุให้ถึงกำหนดทุก 10 ปี
การจดลิขสิทธิ์ (Copyright):

มีระยะเวลาการคุ้มครอง 50 ถึง 70 ปี

4. กรณีการฟ้องคดี:

การจดเครื่องหมายการค้า (Trademark):

การละเมิดเครื่องหมายการค้ามักจะต้องพิสูจน์ว่ามีการใช้เครื่องหมายที่ทำให้เกิดความสับสนหรือสับสนในใจลูกค้า
การจดลิขสิทธิ์ (Copyright):

การละเมิดลิขสิทธิ์มักจะต้องพิสูจน์ว่ามีการทำซ้ำหรือใช้ผลงานที่มีลักษณะที่จดไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต

สรุปแล้ว

การจดเครื่องหมายการค้ามุ่งหวังที่จะป้องกันการใช้ชื่อของธุรกิจในหมวดสินค้านั้น ๆ

ในขณะที่การจดลิขสิทธิ์มุ่งหวังที่จะป้องกันการทำซ้ำ การนำไปใช้ประโยชน์ หรือการแจกจ่ายผลงานนั้นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต

บทบาทของเครื่องหมายการค้าไม่สามารถแทนที่ด้วยลิขสิทธิ์ได้เนื่องจากเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์เป็นสิทธิ์ที่แตกต่างกันสองประการ ข้อความที่คุณออกแบบส่วนใหญ่จะใช้เป็นเครื่องหมายการค้า ดังนั้น จำเป็นต้องสมัครขอเครื่องหมายการค้า
อย่างไรก็ตาม หากคุณสมัครขอลิขสิทธิ์ด้วย คุณจะปกป้องสิทธิ์และผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายได้ดีขึ้น และมีหลักฐานมากขึ้นเพื่อใช้ในการปกป้องสิทธิ์ของคุณ ขณะเดียวกัน สิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าและผลประโยชน์ของคุณก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น